Web for Absolute Reality - "นิพพานเป็นอัตตา" โง่หรือแกล้งโง่?1
  Home
  Contact
  Guestbook
  ปราบมารจริงหรือไม่จริง1/1
  วิชชาธรรมกายกับการสะกดจิต 1
  "นิพพานเป็นอัตตา" โง่หรือแกล้งโง่?1
  => "นิพพานเป็นอัตตา" โง่หรือแกล้งโง่?2
  => "นิพพานเป็นอัตตา" โง่หรือแกล้งโง่?3
  => "นิพพานเป็นอัตตา" โง่หรือแกล้งโง่?4
  ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา1
  "อนัตตา" เข้าใจกันถูกต้องดีแล้วหรือ?1
  นิพพานกับความหมายตรงตัว1

"นิพพานเป็นอัตตา" โง่หรือแกล้งโง่?

 

ไม่ทราบว่า หลวงพ่อสดที่นำวิชชาธรรมกายมาเผยแพร่ มีความเด่น ความดังมากไปหรืออย่างไร  จึงมีผู้มาโจมตีคำสอนของหลวงพ่ออยู่เสมอๆ  ทั้งที่ในตอนที่หลวงพ่อมีชีวิตอยู่ และมรณภาพไปแล้ว  แต่มีสิ่งที่น่าภูมิใจในบรรดาศิษย์ของหลวงพ่อก็คือ หลวงพ่อสดไม่เคยไปโจมตีใครเลย  ไม่แก้ตัวด้วย  ได้แต่สอนไป ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ วิชชาธรรมกายแผ่ขยายไปทั่ว จนสามารถกล่าวได้ว่า ไม่มีสายปฏิบัติใด จะเผยแพร่คำสอนได้เท่าวิชชาธรรมกาย

เท่าที่ศึกษามาในระยะหลายสิบปีมานี้  ข้อความโจมตีวิชชาธรรมกายส่วนใหญ่แล้ว ไม่ได้มีหลักวิชาการใดๆ ไม่มีข้อความรับรองจากพระไตรปิฎก พูดได้อีกอย่างหนึ่งว่า ผู้ที่โจมตีเอาแต่ความคิดส่วนตัว ที่ผิดๆ มาโจมตีโดยไม่มีหลักวิชาการเลย แต่ก็น่าแปลกใจว่า ยังมีคนจำนวนหนึ่ง ซึ่งมากพอสมควร "เชื่อ" ตามกันไปมากมาย

ในบทความนี้ ผู้เขียนจึงขอวิเคราะห์/วิพากษ์/วิจารณ์ข้อความโจมตีคำสอนของวิชชาธรรมกายบ้าง ในเมื่อสายวิชชาธรรมกายถูกโจมตีมานานแล้ว  ตอนนี้ถึงคราวที่จะโจมตีกลับกันบ้าง แต่ในการโจมตีกลับครั้งนี้ ผู้เขียนขอยืนยันว่า ทำอย่างมีหลักวิชาการทั้งทางด้านปรัชญาวิทยาศาสตร์ ปรัชญาตะวันตก ภาษาศาสตร์ และพุทธศาสตร์เองด้วย

ข้อความโจมตีคำสอนของสายวิชชาธรรมกายที่จะนำมาวิเคราะห์/วิพากษ์/วิจารณ์ในครั้งนี้ก็คือ "หลวงพ่อสดสอนว่านิพพานเป็นอัตตา"  ใครที่เชื่อข้อความดังกล่าวนั้น ผู้เขียนขอฟันธงไปก่อนเลยว่า "โง่"  สำหรับหลักฐานก็อยู่ในบทความนี้ แต่อยู่ด้านล่างถัดไป  เมื่ออ่านจบแล้ว ท่านผู้อ่านก็จะเห็นด้วยกับผู้เขียนว่า กลุ่มคนเหล่านั้น "โง่" จริงๆ ตัวจริงเสียงจริง

กลุ่มที่ "โง่" ตัวจริงเสียงจริงดังกล่าว  สามารถแบ่งออกได้อย่างน้อย 2 กลุ่ม คือ "โง่" จริง กับ "แกล้งโง่"

กลุ่ม "โง่" จริงนั้น เป็นกลุ่มคนที่ "โง่บริสุทธิ์" จริงๆ  แบบว่าไม่มีความฉลาดมาเจือปนเลย  ชีวิตที่ผ่านมา กลุ่มคนกลุ่มนี้ไม่เคยใช้มันสมองส่วนคิดมาก่อนเลยทั้งชีวิต  ส่วนกลุ่มคน "แกล้งโง่" นั้น  กลุ่มนี้ รู้แล้วว่า หลวงพ่อสดไม่ได้สอนว่า "นิพพานเป็นอัตตา" แต่สอนมากกว่านั้น  แต่เพื่อหน้าตาเชิงบวกในสาธารณะ (Public positive face) เพราะ เคยโจมตีเช่นนี้มาก่อน  ถึงปัจจุบันพอจะรู้แล้วว่า "โจมตีผิด"  แต่ก็ต้องเผยแพร่ต่อไปเพียงเพื่อรักษาหน้าของตนเองไว้

ผู้อ่านหลายๆ คน คงจะใจเต้นตึกตักๆ เมื่อได้เห็นผู้เขียนจั่วหน้าบทความอย่างนั้น  บางท่านอาจจะนึกว่า ผู้เขียนเลือดจะไปลมจะมาหรือไร  ถึงได้เกริ่นบทนำด้วยถ้อยคำที่รุนแรงไปเช่นนั้น  ผู้เขียนขอยืนยันว่า  ผู้เขียนมีอารมณ์ปกติดี  แล้วไม่มีอะไรมารบกวนอารมณ์แม้แต่น้อย  แต่จากการอ่านเว็บไซต์บ่อยๆ  เห็นข้อความโจมตีดังกล่าวมากๆ เข้า จึงชักจะเห็นว่า พวกที่เชื่อข้อความดังกล่าวนั้น ความรู้ไม่ได้พัฒนาขึ้นไปบ้างเลย  ซึ่งอาจจะทำให้คนที่สนใจศาสนาใหม่ๆ จะมีความรู้ความเข้าใจที่ผิดๆ ติดตัวไป  จึงมีเจตนาที่จะกระตุกความคิดของบุคคลดังกล่าว ให้เป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้าง ไม่ใช่ให้คนอื่นจูงจมูกตลอดไป

ก่อนที่ไปส่วนต่อไป ผู้เขียนขอให้คำจำกัดความเสียก่อนว่า "โง่" ในความหมายของบทความนี้ ไม่ได้หมายถึง โง่แบบ IQ ต่ำ แต่หมายถึงว่า เมื่อเชื่อใครก็เชื่อไปอย่างหัวปักหัวปำ ไม่ยอมรับข้อมูลจากแหล่งอื่น  ยอมให้ผู้ที่ตนเองศรัทธานับถือ "จูงจมูก" ไปตลอด  นี่คือความหมายของ "โง่" ในบทความนี้  หรือจะกล่าวให้ทันสมัยหน่อยก็คือ โง่แบบสมองหมา ปัญญาควายนั่นแหละ

 

คนโง่หรือแกล้งโง่ 3 กลุ่ม

 ที่ผู้เขียนยืนยันว่า คนที่เชื่อไปตามคนอื่นๆ ว่า "หลวงพ่อสดสอนว่านิพพานเป็นอัตตา" นั้น มีอย่างน้อย 2 กลุ่มขึ้นไป คือ โง่หรือแกล้งโง่  แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจจะจัดโดยละเอียดได้ถึงเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งผู้เขียนมีหลักฐานยืนยันดังต่อไปนี้

1) คนที่เชื่อว่า หลวงพ่อสดสอนว่านิพพานเป็นอัตตานั้น  ไม่น่าจะเคยอ่านหนังสือที่เขียนโดยหลวงพ่อเอง หรือหนังสือของหลวงป๋า (พระอาจารย์เสริมชัย วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จังหวัดราชบุรี) รวมถึงหนังสือของคุณลุงการุณย์ด้วย  การที่ไม่อ่านหนังสือดังกล่าวเหล่านั้น  แต่ไปเชื่อหนังสืออื่นๆ ที่โจมตี นี่ก็แสดงความโง่อย่างหนึ่ง คือ ไม่พยายามไขว่คว้าหาความรู้

ปรกตินักวิชาการที่ดีนั้น เมื่อสงสัยจริงๆ ในเรื่องอะไรก็ตาม นักวิชาการที่ดี ที่มีมันสมองส่วนคิด  เขาจะต้องตามไปอ่านที่ต้นฉบับ คือ ต้องไปอ่านหนังสือของสายวิชชาธรรมกายให้มากที่สุดเท่าที่จะมาก ยิ่งอ่านได้ทุกเล่มก็ยิ่งดี  การอ่านนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะอ่านแบบผ่านๆ หรือเปิดลวกๆ ต้องอ่านอย่างพินิจพิจารณา วิเคราะห์ สังเคราะห์ ฯลฯ

โดยสรุป  คนที่เชื่อว่า "หลวงพ่อสดสอนว่านิพพานเป็นอัตตา"  โดยไม่อ่านหนังสือของสายวิชชาธรรมกายเลย แต่เชื่อตามคนอื่นๆ ไป นั่นก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า เป็นความโง่อย่างหนึ่ง

2) ถ้ามีคนแย้งว่า "ฉันอ่านมาแล้วทั้งหมด"  แต่ก็ยังเชื่อว่า "หลวงพ่อสดสอนว่านิพพานเป็นอัตตา" อีก  กลุ่มนี้ยิ่งโง่หนักขึ้นไปอีก ไม่รู้ว่าจะโง่กันไปถึงไหน โง่ซ้ำโง่ซาก โง่อย่างยั่งยืน เพราะในหนังสือของสายวิชชาธรรมกาย  ไม่มีแม้แต่ตอนเดียวที่จะสอนว่า "นิพพานเป็นอัตตา"  แต่มีหลายแห่งหลายที่ที่สอนว่า "นิพพานเป็นนิจจัง/สุขัง/อัตตา"  บุคคลกลุ่มนี้ ขนาดได้อ่านก็ยังไม่เห็นแสงสว่าง  ถ้าเปรียบเทียบกับกลุ่มที่หนึ่ง กลุ่มที่สองนี้โง่หนักหนาสาหัสเกินหนทางที่จะเยียวยารักษา

3) ผู้เขียนเชื่อว่า มีหลายคนรู้แล้วว่า หลวงพ่อสดไม่ได้สอนว่า "นิพพานเป็นอัตตา"  แต่สอนว่า "นิพพานเป็นนิจจัง/สุขัง/อัตตา" แต่ก็ยังเผยแพร่ข้อความที่ว่า "หลวงพ่อสดสอนว่านิพพานเป็นอัตตา" กลุ่มนี้ "ไม่โง่" แต่จิตใจของกลุ่มนี้มีโมหะมาก  กล่าวคือ เคยเชื่อมายังไง ก็เชื่อไปอย่างนั้น  แม้จะมีคนชี้ทางสว่างให้ก็ไม่ยอมเดินไป  ก้มหน้าก้มตาเข้าแต่ทางที่มืดร่ำไป  หรืออีกประการหนึ่งก็คือ รักษาหน้าของตัวเอง เพราะโจมตีไว้มาก เมื่อรู้ตัวว่าผิดก็ไม่ยอมแก้ไข  

 

ความแตกต่างระหว่าง "นิพพานเป็นนิจจัง/สุขัง/อัตตา" กับ "นิพพานเป็นอัตตา"

ผู้อ่านบางคนอาจจะถามว่า ข้อความว่า "นิพพานเป็นนิจจัง/สุขัง/อัตตา" กับ "นิพพานเป็นอัตตา"  มันแตกต่างกันขนาดไหน? 

ผู้เขียนขอยืนยันว่า แตกต่างกันมากมายมหาศาล แตกต่างกันราวฝ่าเท้าของคนที่นั่งอยู่ก้นเหว กับหลังมือของคนที่อยู่บนท้องฟ้าเลยทีเดียว  แตกต่างกันถึงขนาดที่ว่า คนที่เชื่อว่า วิชชาธรรมกายสอนว่า "นิพพานเป็นนิจจัง/สุขัง/อัตตา" สามารถไปสู่สุคติภูมิได้  แต่คนที่เชื่อว่า วิชชาธรรมกายสอนว่านิพพานเป็นอัตตา ไปสู่ทุคติภูมิง่ายๆ นั่นแหละ

แล้วมันแตกต่างกันอย่างไร?

Today, there have been 3 visitors (8 hits) on this page!
This website was created for free with Own-Free-Website.com. Would you also like to have your own website?
Sign up for free